Subscribe:

Ads 468x60px

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การดูแลที่ปัดน้ำฝน

     ที่ปัดน้ำฝน ควรทำความสะอาดยางปัดน้ำฝน กันบ้าง วิธีการก็ไม่ยาก แค่ใช้ผ้านุ่ม ชุบน้ำ แล้วบิดพอหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางใบปัด หากช่วงไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานที่ปัดน้ำฝนเลย ก็ต้องทำความสะอาดด้วยทุกครั้ง ที่มีการล้างรถ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ไม่ควรใช้ผงซักฟอกผสมน้ำ ทำความสะอาดอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ยางเสื่อมสภาพแล้ว ยังทำให้สีรถเสียหายได้อีกด้วย

     ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ที่ปัดน้ำฝนเกิดเสียงดัง นั้นเกิดจากการที่ตัวยางของที่ปัดน้ำฝนกับกระจกรถมีความฝืดจึงทำให้เกิดเสียงดัง การใช้น้ำยาเคลือบกระจกแบบทำให้น้ำฝนไม่เกาะกระจก จะยิ่งทำให้กระจกหน้าฝืดมากขึ้น ควรใช้น้ำยาเคลือบกระจก โดยเว้นบริเวณกระจกบานหน้าจะดีกว่า หรือถ้าเกิดจากยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ทำให้เนื้อยางแข็งขึ้นเกิดแรงกดระหว่างยางกับกระจกมากเกินไป ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น ซึ่งการยกก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้นขณะจอด โดยหวังว่าจะช่วยรักษายางปัดน้ำฝน นั้น ที่จริงมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะครับ แต่กลับส่งผลให้ สปริง ที่ก้านปัดน้ำฝน เสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกต่างหาก ทำให้ระยะยาวของแรงสปริง ไม่แน่นพอที่จะกดก้าน ดังนั้นเมื่อเราขับเร็วๆ ก้านจะเกิดอาการลอย และปัดได้ไม่สะอาด

     การเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน ซึ่งการเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝนนั้น ต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพกระจกด้วย เหล่าผู้ผลิตยางปัดน้ำฝน ได้อธิบายไว้ว่า ยางปัดน้ำฝน ไม่ได้แนบกับผิวกระจกโดยตรง แต่วิ่งอยู่บนฟิล์มเคลือบผิว ซึ่งอาจจะมีทั้งสารหล่อลื่น และน้ำยาเคลือบผิวกระจก ดั้งนั้น หากเราอยู่ในภาวะที่มีน้ำเยอะ หรือฝนตก ทำให้เกิดฟิล์มน้ำขึ้นมาระหว่างยางปัดน้ำฝนกับกระจก หากไม่มีฟิล์ม ที่ว่ามานี้ ยางปัดน้ำฝนก็จะโดนกับผิวกระจกโดยตรงทำให้เกิดเสียงดังขึ้น เป็นเรื่องปรกติ ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะน่ารำคาญสำหรับผู้ขับ

     หากคุณต้องการเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน ก็ต้องเลือกทั้งยางและก้านที่มีขนาดและชนิดเข้ากันกับกระจกได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่ความยาว เท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึง ความโค้งของกระจกด้วย ซึ่งยางและที่ปัดน้ำฝนที่ขายตามห้าง อาจไม่เป๊ะตรงกับรถของคุณ ดังนั้น ลองเปลี่ยนแต่ยางก็ได้นะ แค่เลือกประเภทของยางให้เหมาะสมกับกระจก แค่นี้ก็ได้ที่ปัดน้ำฝนราคาย่อมเยาว์แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น